รูปแบบโครงสร้างแบบดาว (Star Topology) ซึ่งได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานอย่างมาก จะวางเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่ศูนย์กลางของระบบโดยมีอุปกรณ์ทั้งหมดเชื่อม ต่อแบบ จุด-ต่อ-จุดเข้ามาที่เซิร์ฟเวอร์โดยตรงในการรับและส่งข้อมูล เซิร์ฟเวอร์จะต้องทำการสอบถาม(Polling) อุปกรณ์ที่จะติดต่อด้วยก่อนเสมอ การที่ไม่มีอุปกรณ์ เช่น คอนเซ็นเทรเตอร์คั่นกลางระหว่างเซิร์ฟเวอร์กับอุปกรณ์ที่เหลือทำให้ เซิร์ฟเวอร์ต้องทำงานหนักขึ้นรูปแบบโครงสร้างแบบดาว
จาก ภาพแสดงการเชื่อมต่อโครงสร้างแบบดาวโดยใช้ตู้สลับสัญญาณพีบีเอ็กซ์ (Private Branch Exchange; PBX) ทำหน้าที่แทนคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์กลางของระบบเครื่องโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งอุปกรณ์อื่นจะเชื่อมต่อโดยตรงแบบจุด - ต่อ - จุดเข้ากับตู้พีบีเอ็กซ์ ดังนั้นข้อมูลจึงต้องเดินทางผ่านตู้นี้เสมอ การติดต่อไปยังระบบเครือข่ายภายนอกก็ต้องติดต่อผ่านตู้นี้เช่นกัน
ระบบ เครือข่ายโครงสร้างแบบดาวมีจุดอ่อนเช่นเดียวกับระบบที่ใช้โครงสร้างลำดับ ชั้นนั่นคือถ้าคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์กลางหยุดทำงาน ระบบเครือข่ายนั้นก็จะใช้การไม่ได้ทั้งระบบ ในองค์กรที่ต้องการความเชื่อใจในระบบสูงจะใช้วิธีจัดตั้งอุปกรณ์ที่ศูนย์ กลางแบบซ้ำซ้อน คือมีอยู่สองเครื่อง โดยปกติจะใช้เครื่องหลักทำงาน ถ้าเครื่องหลักไม่สามารถทำงานได้ก็จะสลับมาใช้เครื่องสำรองให้ทำงานต่อไปได้ ในทันที
ข้อดีของเครือข่ายแบบดาว
1. สะดวก ง่ายต่อการตรวจสอบการทำงานของระบบโดยรวม
2. หากเครื่องคอมพิวเตอร์สถานีงานหนึ่งเสีย เครื่องอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ
3. มีความเป็นระเบียบ
ข้อเสียของเครือข่ายแบบดาว
1. อัตราเร็วในการส่งข้อมูลช้า ( 4 Mbps)
2. สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของสายสัญญาณ
3. การขยายระบบจะขึ้นอยู่กับจุดควบคุมส่วนกลาง
4. ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เซริ์ฟเวอร์เสีย เครือข่ายจะไม่สามารถทำงานได้
pradit tussanaleelapron
1900900142634
รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม
สมาชิกในกลุ่ม
1. อาจารย์ ธภัทร ชัยชูโชค อ.ปาล์ม
2. นาย อาณัฐ หมาดอะหิน พี่ณัฐ
3. นาย วิรศักดิ์ ขับเอียด บ่าวโอ
4. นาย ขจรเกียรติ เอียดแพะ น้องเบียร์
5. นาย ศตวรรษ รองเลื่อน ใบ
6. นางสาว กันตา พุทธิกีกกวีวงศ์ เกรท
7. นางสาว อามีนา ปานแขวง นา
8. นางสาว ฝาตีม๊ะ หลงกาสา ม๊
9. นาย ธีรวัฒน์ ไฝพรม ต้า
10 นาย เจษฎา จันทรประดับ เจต
11. นางสาว วิลาวรรณ พรมสมดะ บัว
12. นางสาว บุณฑริกา สุขาเขิน หมิว
13. นางสาว อรอุมา นวลลอย พี่บี
14. นาย มะฮดี บิญอับดุซซาลาม ต๋อง
15. นางสาว ศุภาธนี บูสู บี
16. นางสาว พิจิตรา ธาตุจันทร์ ตุ้ม
17. นางสาว ลัดดาวรรณ์ ดกเอีย ดาว
18. นาย นิอุสมาน ปาเกแม มัง
19. นาย จักรพงษ์ เกตุกลางดอน นัท
20. นางสาว ฮายสตี สะอิ ตี
21. นางสาว สุพัตรา นิลวรรณ กวาง
22. นาย ธีรศักดิ์ ไชยภักดี หมึก
23. นาย สุรเชษฐ์ ชุมศักดิ์ ต่อ
24. นางสาว รัตนาภรณ์ มณีนิล พี่ไก่
25. นาย ศิวกร โสพิกุล ก็อต
26. นางสาว ทิวา ชูมาลี กิ๊บ
27. นางสาววิชชุดา จงไข่ ตุ๊กตา
28. นาย สุรศักดิ์ เหมณะ เอ็ม
ปวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นายประดิษฐ์ ทัศนลีลพรวันเดือนปีเกิด 24 กันยายน 2534
ประวัติการศึกษา
จบ ป.6 โรงเรียนเทศบาล 3 (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์)
จบ ม.3 โรงเรียนเทศบาล 1 (เอ็งเสียงสามัคคี)
จบ ปวช.3 โรงเรียนหาดใหญ่เทคโนโลยี
จบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ตอนนี้กำลังศึกษา อยู่ที่ มหาวิทยาลัย ราชภัฎ สงขลา
ใบงาน ที่3
*** ให้นักศึกษาทำการค้นคว้าหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปนี้ ค้นหาบทความทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร พร้อมทั้งให้แสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์บทความดังกล่าวว่ามีข้อดี ข้อเสีย หรือผลกระทบต่อตัวนักศึกษาหรือสังคมอย่างไร
บทความนี้เกี่ยวกับอภิธานศัพท์เทคโนโลยี สำหรับกระทรวงในประเทศไทย ดูที่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ประเทศไทย)
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เกี่ยวข้องกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร (อังกฤษ: information and communication[s] technology; ไอซีที) เป็นศัพท์ที่มักใช้ในความหมายคล้ายกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) แต่ขยายขอบเขตเพิ่มขึ้นโดยเน้นเรื่องบทบาทของการสื่อสารแบบรวมศูนย์ (ยูซี) กับบูรณาการของสิ่งต่อไปนี้ได้แก่ โทรคมนาคม (ทั้งสายโทรศัพท์และสัญญาณไร้สาย) คอมพิวเตอร์ตลอดจนถึงซอฟต์แวร์วิสาหกิจ มิดเดิลแวร์ หน่วยเก็บข้อมูล และระบบโสตทัศน์ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง เก็บบันทึก ส่งผ่าน และจัดดำเนินการสารสนเทศได้
นักวิจัยทางวิชาการเริ่มใช้ศัพท์ ไอซีที ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา แต่มันเป็นที่นิยมหลังจากเดนนิส สตีเฟนสันใช้ศัพท์นี้ในรายงานเพื่อแถลงต่อรัฐบาลสหราชอาณาจักร เมื่อ ค.ศ. 1997 และปรากฏในหลักสูตรแห่งชาติฉบับปรับปรุงของอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือเมื่อ ค.ศ. 2000
นอกจากนี้ศัพท์ ไอซีที ในปัจจุบันนี้ก็ยังหมายถึงการลู่เข้าของเครือข่ายโทรศัพท์และระบบโสตทัศน์ เข้าสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ผ่านทางเคเบิลสายเดียวหรือระบบเชื่อมต่อหนึ่งเดียว มีสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อที่จะผสานระบบโสตทัศน์ การจัดการสิ่งปลูกสร้าง และเครือข่ายโทรศัพท์ เข้าสู่ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบเคเบิล การจัดการและการกระจายสัญญาณ แบบรวมศูนย์เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างยิ่งเนื่องจากเครือข่ายโทรศัพท์จะถูกขจัดออกไป
ผลกระทบในทางบวก
1. การสื่อสารและโทรคมนาคมนั้น ส่งผลต่อระบบสังคมการเมื่องในแง่ของการเพิ่มช่องทางเลือกในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนให้มากขึ้น ส่วนในระดับปัจเจกบุคคลนั้นพัฒนาการของเทคโนโลยี การสื่อสารทำให้เกิดการเรียนรู้ เกิดทัศนคติ ตลอดจนจิตสำนึกทางการเมืองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกันโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องพรมแดน รัฐบาลและอำนาจอธิปไตยอีกต่อไป
2. การขยายตัวของการสื่อสารและโทรคมนาคมได้มีอิทธิพลที่สร้างผลต่อสังคมไทยทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเนื่องมาจากการหลั่งไหลของ "ทุนนิยมสมัยใหม่" ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ทุนนิยมโลก การค้าระหว่างประเทศ หรือธุรกิจข้ามชาติเข้ามามีบทบาทต่อการเมืองไทย เกิด"การหลั่งไหลของทุนและข้อมูลข่าวสาร" เข้าสู่ทุกส่วนของประเทศไทย
3. การสื่อสารโทรคมนาคมมีความสะดวกติดต่อกันง่านขึ้นจึงส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารมีความรวดเร็ว และมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก หรือเกิดเป็นลักษณะ "หมู่บ้านโลก" (global village)และ "วัฒนธรรมโลก" (global culture) ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม อันเนื่องมาจากสื่อสารที่รวดเร็วเสมือนอยู่ในชุมหรือประเทศเดียวกัน ทำให้เกิดการส่งผ่านวัฒนธรรมผ่านสื่อทันสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ จากประเทศตะวันตกที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมแตกต่างกับสังคมไทย ทัศนคติและค่านิยมสมัยใหม่แบบตะวันตกจะหลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยที่ยังคงมีทัศนคติ ค่านิยมและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมอยู่ จึงเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมนำมาซึ่งปัญหาสังคมต่างๆ มากมาย
ผลกระทบในทางลบ
ผลกระทบที่เกิดจากเทคโนโลยีการสื่อสาร และโทรคมนาคาที่เกิดขึ้นในทางลบมีหลายประการ เช่น ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ อาชญากรรมบนอินเตอร์เนต การแพร่ภาพอนาจารย์บนเครือข่าย การแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชน การพนันบนเครือข่าย การพาณิชย์ที่ขัดต่อกฏหมายและศิลธรรม ปัญหาบุคลากรสาขาวิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ปัญหาอาชญากรรมชนิดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มจะสร้างปัญหาให้แก่สังคมโดยรวม จนรัฐบาลของประชาชนที่เกิดจากอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
2. ธุรกิจที่ทำภายใต้เทคโนโลยีสารสนเทศและอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ขัดต่อศิลธรรมและจริยธรรมมีมากมาย ทั้งที่ผิดศิลธรรมชัดเจน และที่อยู่ในข่ายหลอกลวงให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ธุรกิจเหล่านี้มาในรูปแบบหนึ่งของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
3. ปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ช่วยให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมักจัดทำเพื่อประโยชน์ในกิจกรรมของนิติบุคคล หรือการให้บริการของหน่วยต่างๆ ซึ่งผู้ใช้บริการมักเข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้นั้นจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่ในความเป็นจริงข้อมูลเหล่านี้อาจถูกละเมิดได้ โดยที่เจ้าของข้อมูลอาจรู้เลยก็ได้
4. อินเทอร์เน็ตนั้นมิได้มีแต่ประโยชน์เพียงด้านเดียว เป็นที่ยอมรับกันว่าความไร้ขอบเขตของการออนไลน์ทำให้เกิดผลในทางลบหลายๆ ประการ ที่เห็นได้ชัดคือปัญหาสื่อลามกอนาจาร การล่อลวง เกมออนไลน์ เป็นต้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งขาดความรู้ ความเข้าใจ และความระมัดระวังตัวในการออนไลน์หรือการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
ป้ายกำกับ:
ประดิษฐ์ ทัศนลีลพร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)